ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือเปล่า

ช่วงเวลาระหว่างที่กำลังแข่งกริด ได้สะท้อนให้ผมเห็นถึงความผิดพลาดของความคิดของตัวเองได้อย่างชัดเจน… ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า…

ตอนนั้นผมคิดว่าผมพบวิธีการปัญหาฟิสิกส์+คอมพิวเตอร์นั้นที่ยอดเยี่ยม พยายามอธิบายไอเดียด้วยความมั่นใจและด้วยเหตุผลสนับสนุน และสุดท้ายก็ต้องพบว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันไม่ครอบคลุม ไม่พอเพียง มันผิดจากสิ่งที่ต้องการ …และเป็นแบบนี้ อยู่ 3 ครั้งใน 2 วัน

ผมไม่ได้ใส่ใจนักกับผลการแข่งขัน แต่ก็เชื่อได้ว่าคงไม่ดีซักเท่าไหร่

สิ่งที่ใส่ใจก็คือว่า แล้วเรื่องความคิดต่างๆ ที่เราเคยสรุปให้ตัวเองเกี่ยวกับการใช้ชีวิตหล่ะ… มันก็คงเป็นไปได้ไม่น้อยเลยที่จะต้องพบว่า เรื่องที่คิดมา.. มันผิด

หลายๆ คนที่อ่านมาคงจะคิดว่า มันไม่มีอะไรผิดอะไรถูกหรอกถ้าเกี่ยวกับเรื่องชีวิต  ใช่เลย ผมเองก็คิดแบบนั้น ผมเองคิดเลยเถิดไปถึงขั้นที่ว่า มันไม่มีอะไรดีหรือไม่ดีเลยซักอย่าง ซึ่งจากที่เป็นความคิดหลังๆ มานี้มันเริ่มรุกลามมาเป็นความรู้สึก จนเริ่มรู้สึกว่าแล้วทุกอย่างที่ทำมาก็ไม่รู้จะทำไปทำไม  คือไม่ว่าจะพัฒนาอะไรไป เราก็ยังรู้สึกทุกข์อยู่ดีจริงๆ ครับ  ผมจะพิสูจน์ทฤษฎีบท หรือจะสร้างโปรแกรมที่มันเพิ่มความสะดวกสบายกับชีวิต หรือจะทำดีทำบ้าอะไร มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า…

นั้นคือสิ่งที่คิดครับ

แต่ตอนนี้ผมไม่มั่นใจแล้วว่า ความคิดที่ว่ามันไม่มีอะไรถูกหรือผิด มันถูกหรือเปล่า  และไม่รู้ว่าจะมีทางที่ทำให้เรามั่นใจอะไรได้บ้างหรือเปล่า  หรือบางที่เราคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเชื่อ.. (ซึ่งในอีกร้อยปีถัดไปอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ไร้สาระที่สุดในปฐพี)

คืนนี้ได้คุยกับอาจารย์มะนาวมาครับ(แต่ไม่ได้คุยตามที่เขียนนี้ทั้งหมดนะครับ) ก็.. รู้สึกมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปมากขึ้น อาจารย์บออกว่ายังไงก็ตามไม่ว่าจะมุ่งหวังว่าจะทำอะไรหรือในตอนหลังจะสรุปได้ว่าสิ่งที่ทำมามันไม่มีความหมายเลย ยังไงตอนนี้ก็ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองไปก่อนด้วยแน่ๆ เพราะถ้าในเวลาต่อมาเราเกิดสรุปอะไรขึ้นมาได้ เราจะได้มีกำลังทำต่อไป

กลับมาอ่านที่ตัวเองเขียนก็รู้สึกว่า ยังไม่ได้ตรงตามความจริงในใจมากนักแต่ก็ไม่เป็นไรครับ  เอ้อ.. อยากจะถามคนที่เข้ามาอ่านซักหน่อยนะครับว่า 1.เป้าหมายในชีวิตของตัวเองคืออะไรครับหรือจะบอกว่าไม่มีก็ได้  2.ทำไมถึงคิดแบบนั้น ส่วนไหนที่มาจากความเชื่อหรือส่วนไหนที่คิดด้วยเหตุผลมา

ระหว่างนี้ ผมก็จะค่อยๆ คิดไปด้วยเหมือนกัน 🙂

14 thoughts on “ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือเปล่า

  1. 1. ยอมรับว่ายังไม่มีเป้าหมายชีวิตครับ

    มีแต่เป้าหมายรายวันว่า:
    วันนี้จะต้องใช้ชีวิตให้มีความสุข และคุ้มค่าที่สุด(เท่าที่จะทำได้) + ทำให้คนอื่นมีความสุขได้(ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง)

    2. คิดว่าถ้าทำให้ทุกวันมีความสุขได้… มันจะ induction ให้ทั้งชีวิตมีความสุขได้ครับ 😉 เหอะๆ

  2. 1. ไม่มี
    2. หาไม่เจอ

    ปล. ชีวิตไม่ได้เป็นอนันต์ จะ Induction ได้มั๊ย (ถามเล่นๆ นะ)

    • ปล. ของแชมป์เจ๋งๆ แฮะ
      เพราะว่าชีวิตมันตายได้เนี่ยแหล่ะ เราว่าที่ทำให้บางทีเรารู้สึกว่า แค่มีความสุขสำหรับทุกวันมันไม่พอ

  3. ที่ถาม ขออนุญาติไม่ตอบ เพราะไม่อยากตอบ(ไม่ตอบคือไม่ตอบด้วยว่ามีหรือไม่มี ขี้โกงไหม ฮ่าๆๆ)

    คิดเล่นๆ

    คนที่อยู่ด้วยความเชื่องมงาย ในสายตาคนที่ไม่เชื่ออาจจะมองว่าเค้าหลอกตัวเองแบบนั้น แต่ถ้าเค้าเชื่อแบบนั้นแล้วเค้ามีความสุข ก็ดีแล้วนี่นา อีกล้านปีข้างหน้าใครจะบอกว่าความเชื่อนั้นไร้สาระก็ช่างประไร

    ความคิดว่าอะุไรถูก อะไรผิด จริงๆแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าเอาอะไรมาวัดตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่นา คนที่ปลงได้ทุกอย่างจะมีความสุขกว่าคนที่ก้มหน้าก้มตาทำไปเรื่อยๆเสมอไปเหรอ (ถ้าทำแล้วถึงจะเหนื่อยจะเครียดแต่มีความสุข ไม่ดีรึไง)

    เราว่ามารู้ทีหลังว่าที่ทำไปมันผิด(ทั้งๆที่คิดไตร่ตรองก่อนทำแล้ว) ยังดีกว่ามานั่งเสียดายว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ทำซะนะ…

    เอ่อ ดูใจความมันไม่ต่อต่อกันยังไงไม่รู้แฮะ แต่พิมพ์ไปแล้วตั้งยาว ขี้เกียจแก้อ่ะ ฮ่าๆๆ

  4. สมัยเด็กๆผมเองก็ไม่มีเป้าหมายชีวิตเป็นชิ้นเป็นอัน รู้แต่ว่า ตัวเองมีความอยากรู้แบบไม่มีสิ้นสุด ก็เลยวางเป้าหมายง่ายๆว่า “เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง”

    พอเริ่มเข้าวัยทำงาน ก็ยังไม่มีเป้าหมาย แต่พอมีประสบการณ์ครบ 10 ปี (เริ่มเข้าสู่ความเป็น professional) อยู่ดีๆ เราก็รู้สึกว่า เรามีเป้าหมายในอาชีพแล้ว (paradigm มันเปลี่ยน)

    พอมีลูก คราวนี้ไม่ต้องถามว่ามีเป้าหมายอะไรแล้ว ร่างกายและจิตใจ รู้ซึ้งชัดเจนว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร หมดความลังเลสงสัย

    เล่ามานี่ ไม่ได้หมายความว่าจะแนะนำให้ eigx มีลูกนะ 🙂

    สำหรับผม ความชัดเจนในชีวิต มันมาพร้อมๆกับ ประสบการณ์ที่เราได้รับ
    ไม่ใช่ประสบการณ์เดิมๆนะ ต้องเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ
    อย่างช่วงอายุ 25, ช่วงนั้นผมอกหัก ผมก็เลยคว้าจักรยานขี่ลงใต้ ตั้งเป้าว่าจะไปภูเก็ต, ประสบการณ์นั้นช่วยเปลี่ยน paradigm ได้ระดับหนึ่งเลย

  5. จิตร์ทัศน์ says:

    ผมคิดว่าชีวิตอาจจะไม่มีว่าทำถูกหรือทำผิดที่ชัดเจน แต่ผมเชื่อว่าชีวิตที่ดีงาม ชีวิตที่มีคุณค่า มีอยู่จริง

    คนหนึ่งคนเกิดมาแล้วก็ตาย ตายแล้วก็หายไปจากโลก… ผมคิดว่าคุณค่าของชีวิตนิยามจากวันนี้และวันข้างหน้าและวันที่เราตายไปแล้ว ถ้าจะนับคุณค่าจากวันที่เราตายไปแล้วด้วย ผมก็คิดว่าคนเราเกิดมาทำไม ถ้าไม่ใช่เกิดมาเพื่อคนอื่น ๆ รอบตัวเรา อาจจะเป็นวงที่เล็กหน่อย ใหญ่ขึ้น หรือใหญ่มาก ๆ ก็แล้วแต่คน

    1. ไม่บอก
    2. ไม่แน่ใจ ฮ่าฮ่า

  6. 1. พยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขมากที่สุด (ซึ่งก็เป็นความสุขทางโลกีย์ น่ะนะ มันเลยเสพเท่าไหร่ก็ไม่พอ) อนาคตก็คงจะเปลี่ยน ถ้าเรียนรู้โลกอันเน่าเฟะใบนี้ถึงจุดหนึ่ง

    2. ชีวิตนี้มีถูกผิดอยู่ที่เราคิด แต่ความสุขนิรันดร์ในดลกนี้ไม่มีจริง ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อเสพความทุกข์ แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีกว่า ถ้าไม่มีชีวิต(กายหยาบ) แล้วจะทุกข์รึเปล่า แต่น่าจะอนุมานได้ว่า คงเป็นความทุกข์ในอีกรูปแบบหนึ่ง

    ถึงอย่างไรก็ตามผมก็คิดว่า คนเราเกิดมาเพื่อคนที่อยู่รอบตัวเรา เหมือนที่อ.มะนาวว่าไว้ครับถ้าไม่นับว่า เกิดมาเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ (id) แต่เรากลับเห็นว่า อย่างหลังน่าจะมีความแรงกว่า มนุษย์อาจจะฉลาดจนคิดเลยเถิดไปเองแล้วก็ได้ (แล้วยังจะอยากฉลาดดกว่านี้อีก)

    ปล. โลกเราคือ Matrix รึเปล่า?

  7. passmon says:

    1.ไม่มีอะไรมากมา ขอแค่อยู่อย่างมีความสุขไปวันๆนึง ก็พอแล้ว

    2.อืม จากที่เคยเห็นหลายๆคนพยายามดิ้นรน ทำนู้นทำนี่ อยากรวย
    อยากนู้น อยากนี่ อยากรวยก็ขยันทำงาน ทำอยู่เรื่อยๆไม่หยุด ได้เลื่อนๆไปตำแหน่งสูงๆ แต่พอได้ตามต้องการแล้วก็ไม่เห็นชีวิตจะมีความสุขขึ้นเลย คงเพราะคนสมัยนี้ “ลืมไปแล้วว่าความต้องการของตนเองนั้นคืออะไร” เนื่องจากรูปแบบสังคมสมัยนี้ ทำให้ความคิดบิดเบือนไปเรื่อยๆนั่นเอง

  8. ตอบคำถาม

    (1) ให้ใคร ๆ ข้ามถนนในเมืองได้โดยไม่ต้องขึ้นสะพานลอยหรือระวังรถ
    (2) เพราะอยากให้ลูกหลาน พ่อแม่พี่น้อง คนที่ตัวเองรัก สามารถข้ามถนนในเมืองได้โดยไม่ต้องตะเกียกตะกายขึ้นสะพานลอย หรือตกใจกลัวว่ารถจะชน

  9. (1) มีกิจการส่วนตัวเล็กๆ (เปิดสปอร์ตคลับ) มีครอบครัวที่ดี เป็นพอ
    (2) ความสุข

    แต่กว่าจะทำให้ได้มาซึ่งข้อ (1) มันก็ไม่ง่ายนะ ก็เหนื่อยพอตัว
    บางครั้งเราก็ต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบ เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ชอบ
    เพื่อให้ได้มาสิ่งที่เราต้องการ นั่นคือเป้าหมายของเรา

    ชีวิตมันเป็นของเรา ถูกหรือผิด มันก็คือชีิวิตเรา
    แต่มันจะไม่ใช่เป็นเพียงของเราก็ตรงที่มันส่งผลต่อชีวิตคนอื่น
    ฉะนั้น อยู่อย่างมีความสุข เป็นพอ

  10. niamo says:

    หาเงินก่อนครับ สำคัญที่สุด

    ต่อมา คือการค้นหาชีวิต หากิจกรรมทำ หาอะไรที่ชอบ หาเมีย

    ต่อมาคือ การทำใจกับสัจธรรมชีวิต หมั่นทำบุญ เพราะการทำบุญทำให้เรามีความสุขใจ

    ต่อมาทำอะไรยิ่งใหญ่เอาไว้ ให้โลกจดจำ แล้วก็ตาย

    อิ๊กต้องคิดอะไรมาก ในเมื่อตอนนี้เราก็เกิดมาแล้ว แทนที่จะมาหาความหมายของชีวิต สู้ไปทำอะไรที่ชอบๆไม่ดีกว่าเร้อ

    ชีวิตสำหรับด้นก็คือ การเอาตัวรอดในโลกที่โหดร้าย หล่อเลี้ยงกายใจด้วยการทำสิ่งที่เราเชื่อ และเหลือสิ่งดีๆไว้กับโลกใบนี้

Leave a comment