เหตุผลหนึ่งที่ทำให้อยากมีชีวิตต่อไป

บางครั้ง ผมรู้สึกดีใจที่ได้เกิดมา หลังจากได้ดูหนัง อ่านนิยาย หรือการ์ตูนที่เรารู้สึกประทับใจมากๆ จบ
เคยเป็นไหมครับ

บางทีผมรู้สึกว่า ถ้าพ่อ-แม่-พี่ตายไปแล้ว ก็ดูจะไม่มีเหตุผลที่จะต้องมีชีวิตอยู่เท่าไหร่
เหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป อาจจะเป็นแค่ความหวังที่ได้เจอกับ อะไรประทับใจๆ แค่นั้นเอง

…ที่จริงแล้ว มันก็ไม่ใช่แค่ “แค่นั้นเอง”
สิ่งที่ประทับใจ เป็นสิ่งที่ตื้นตันและเติมเต็มในความรู้สึก ไม่ว่าจะซึ้ง เศร้า เหงา หรือ สุข มันก็เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมบรรยายไม่ได้ และความรู้สึก เป็นสิ่งเดียวที่มีบ่งบอกว่าเรามีอยู่จริง

เหตุผลของการอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปของผมแบบนี้ เป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ดูงี่เง่าหรือเปล่า
หรือผมจะเป็นคนที่ด้อยโอกาสที่จะได้เจอกับเหตุผลที่จะทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

แต่ผมว่าก็น่าจะมีหลายคนเป็นแบบนี้?
ก็มันดูคล้าย การตามหารักแท้เลยนี่นา

อารมณ์ศิลปิน

หรือเพราะช่วงที่ผ่านมาอากาศมันร้อนมากไปเกิน ผมไม่ทราบ…
มาดูอีกที ทำไมบ่อน้ำตามันตื่นเขินซะขนาดนี้

พักหลังมานี้ไม่ว่าจะดูหนัง อ่านการ์ตูน อ่านหนังสือ ดูเหมือนผมจะ ‘อิน’ กับมันได้มากขึ้นมาก จนบางทีผมเริ่มจะสงสัยตัวเอง 
“นี้มันเกินเหตุหรือเปล่าวะ”

หนังเรื่องล่าสุดที่ได้ดูเรื่อง Friend เป็นเรื่องของมิตรภาพของเพื่อน 4 คนที่คบกันมาตั้งแต่เล็กๆ แต่พอโตขึ้นต่างคนก็ต่างมีวิถีชีวิตที่ผกผันจนบางทีก็มีเรื่องขัดแย้ง แต่มิตรภาพที่มีอยู่ไม่เคยเปลี่ยนไป  ก็เหมือนกับมีสิ่งที่ไม่มีเหตุผลที่ทำให้เค้าไม่เคยทิ้งกัน
…ซึ้งจนทำให้ ระหว่างที่พิมพ์อยู่นี้ ผมยังต้องสูดน้ำมูกอยู่ 555 (เพิ่งดูจบมาเมื่อกี้)

หรืออย่าง เรื่อง one piece ตอนใหม่ล่าสุด 
ผมรับ C-Kid ที่นชัยเอามาให้ อ่านไปซักพัก.. แล้วจากนั้นก็ เดินไปนั่งอยู่ในมุมที่ไม่ค่อยมีคนมอง  
ก็ มันเป็นตอนที่เรือโกลอิ้ง แมรี่จากไปหนิ่ครับ ต้องเข้าใจ

ผมก็ไม่รู้จะบอกยังไงว่า ผมหน่ะ ดื่มด่ำแค่ไหน ซึ้งโคตรยังไง เศร้ายังไง
แต่ว่าประมาณนี้หน่ะครับ ความรู้สึก…

เหมือนสายใยแสนงามยามขาดผึง  แต่ตราตรึงติดตามไม่ขาดได้
เหมือนจุดจบจุดขาดจากกันไป  หากหวนมาร้อยรัดใจให้หลั่งริน

ผมว่าร้อยกรองสื่ออารมณ์บางอย่างที่ร้อนแก้วให้ไม่ได้นะ

มาคิดดูเล่นๆ
หรือที่ บ่อน้ำตามันตื่นลงแบบนี้
ก็เพื่อให้ผมได้มองลงไป ‘ข้างในนั้น’ ได้ชัดเจนขึ้น