ณ บ้านแสนสวยริมป่า อันเป็นที่อยู่ของนายพรานผู้หนึ่ง ซึ่งดักสัตว์เล็กๆน้อยๆเพื่อยังชีพในบริเวณนั้น
วันหนึ่ง นายพรานดักจับลูกนกป่ามาได้สามตัว ลูกนกทั้งสามเบียดตัวเข้าหากันและกันด้วยความหวาดกลัวต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้น
ด้วยอากับกิริยาอันน่าเวทนานั้น ทำให้นายพรานรู้สึกใจอ่อนจนมิอยากพรากชีวิตเล็กๆนั้นไปเพื่อเป็นอาหาร
และเจ้านกน้อยสามพี่น้องก็น่ารักน่าเอ็นดูจนนายพรานทำใจไม่ได้ที่จะขายมันเพื่อแลกเงินตราจำนวนเล็กน้อย
เขาจึงตัดสินใจเลี้ยงมันไว้เอง โดยทำกรงง่ายๆจากไม้ระแนง กรงนั้นมีขนาดพอดีที่จะห้นกทั้งสามอยู่รวมกันได้อย่างไม่อึดอัดนัก
ลูกนกตัวแรกมีสีขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะ ไม่มีรอยด่างดำใดๆปรากฏอยู่บนขนอันนุ่มละมุน
ลูกนกตัวที่สองมีสีเทาขมุกขมัวราวกับควันบุหรี่
ลูกนกตัวสุดท้ายมีสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดปลายหาง
นายพรานรักลูกนกทั้งสามเท่าๆกันทุกตัว และเขาดูแลพวกมันอย่างดี
วันเวลาผ่านไป ลูกนกทั้งสามได้เติบใหญ่ มีขนเป็นมันเงาอันเกิดจากความเอาใจใส่อย่างดี
แต่แล้ววันหนึ่ง…นายพรานซึ่งเข้าป่าดังเช่นปกติ กลับหายสาบสูญเข้าไปในป่าโดยไม่กลับออกมาอีก
ลูกนกทั้งสามถูกทิ้งไว้ลำพัง กรงที่คอยคุ้มกันภัยกลับกลายเป็นกำแพงกั้นอิสรภาพ
โชคดีเป็นของนกน้อย เพราะมีนางฟ้าประจำป่าองค์หนึ่ง เดินเล่นเลาะริมป่ามาจนถึงบ้านน้อยริมป่าหลังนี้ เธอพบลูกนกที่น่าสงสารกำลังอ่อนระโหยโรงแรงอยู่ในกรงที่ปราศจากน้ำและอาหาร นางฟ้าใช้มืออันอ่อนนุ่มเปิดกรงเพื่อให้อิสรภาพแก่นกน้อยทั้งสาม และนางก็จากไป
นกน้อยทั้งสามโบยบินไปในต่างทิศทาง
เจ้านกสีขาวบินมุ่งขึ้นไปทางทิศเหนือ แวะหยุดพักผ่อนที่ต้นไม้ริมทะเลสาบที่แปรเป็นน้ำแข็งด้วยอากาศเย็นแห่งภาคเหนือ เจ้านกน้อยถลาบินเข้าไปในเมือง แต่ด้วยอากาศหนาวเย็นที่มันไม่คุ้นเคย มันจึงอ่อนล้า ขณะที่มันหนาวสั่นอยู่นั่นเอง มันได้พบหญิงชราใจดีที่ใช้สองมืออันอบอุ่นประคองมันไปสู่บ้านอันแสนอบอุ่นที่มีไฟในเตาผิงลุกโชน มีบางคืนอันเงียบเหงา ที่มันระลึกถึงบ้านน้อยริมป่าที่มันจากมา
เจ้านกสีเทาบินลงไปทางทิศใต้อันอุดมสมบูรณ์ด้วยผลไม้นานาชนิด อิสรภาพทำให้มันได้ลิ้มลองผลไม้รสหวานหอมมากมาย และมันมีความสุขมากมาย ยามค่ำคืนงีบหลับตามคาคบไม้ ยามอากาศสดใสก็ท่องเที่ยวทุกแห่งหน ยามฟ้ามืดมนมันก็หลบภัยใต้ไม้ใหญ่
แต่เจ้านกสีดำสนิทนั้น…มันไม่ได้จากบ้านริมป่าไปไหน มันกลัวที่จะต้องเริ่มต้นใหม่ในดินแดนที่มันไม่คุ้นเคย ทุกวันทุกคืนมันจะวนเวียนอยู่บริเวณรอบๆบ้านนั้น ยามหวาดกลัวมันก็เข้าไปซุกในกรงที่เปิดอ้า และสุดท้ายมันก็สิ้นชีวิตไปอย่างหิวโหยและเดียวดาย ที่บ้านร้างแห่งนั้นเอง…
——————————————————————————–
หัวใจของเราก็เช่นกัน…แม้อาจมีเกราะกำบังเข้มแข็งเพียงไร แต่หากขาดน้ำและอาหาร นั่นคือ ความรัก หัวใจย่อมอ่อนแอลง
และยามที่หัวใจเปิดออกสู่อิสรภาพ เมื่อชิ้นส่วนสำคัญในหัวใจนั้นหายไปอย่างไม่มีทางหวนกลับ เราก็มีทางเลือกมากมาย
เราจะเลือกทิ้งอดีตอันเจ็บปวด โบยบินไปหาแหล่งพักพิงใหม่อันแสนอบอุ่น และคิดถึงอดีตเป็นครั้งคราว
หรือทิ้งเกราะกำบังทั้งหมดไป เริ่มต้นกับสิ่งใหม่อย่างอิสระโดยไม่สนใจอดีต และใช้เวลาเยียวยาช่องว่างที่ขาดหาย จนกว่าซักวันมันจะเต็ม
หรืออาจจะเป็นทางเลือกนี้…เฝ้าคร่ำครวญถึงหัวใจอันขาดหาย ไม่สนใจส่วนของหัวใจที่เหลืออยู่ จนหัวใจส่วนที่เหลือตายอย่างช้าๆจนหมดสิ้นทั้งดวง…
บล็อกนี้อุทิศแด่…ปลาคาร์ฟ หุหุ