ปรัชญาที่จริงและดี

ผมไปเขียน comment ใน status ที่ review หนังสือเรื่อง Straw Dog มา

เนื่องจากตั้งใจเขียน และมันค่อยข้างที่จะสรุปความคิดเชิงปรัญชาของผมในช่วงนี้ได้ดี เลยเอามา post ในนี้เพื่อให้จำได้ว่าเคยคิดอะไร

แนะนำให้ไปอ่าน status ก่อน


ผมยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ แต่เท่าที่ฟังสรุปดูแล้ว
ผมขอแลกเปลี่ยนความคิดนะครับ เห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงยินดีรับฟังครับ

ผมว่า หนังสือเล่มนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานปรัชญาที่ผิดทั้งจากความจริงและผิดในเชิงจริยธรรมเลยอะครับ

1. มันผิดจากความจริง เพราะว่า มนุษย์ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ได้จริง

เหตุผลก็คือว่า ทุกๆ เป้าหมาย (transformation) สามารถถูกแบ่งเป็นสองขั้ว ไม่มีทางอื่น
1. เป้าหมายนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะกฎฟิสิกส์ห้ามไว้
2. เป้าหมายนั้น เป็นไปได้ ถ้าเราเข้าถึงความรู้สำหรับเรื่องนั้น
นั้นแปลว่า ทุกๆ ความเลวร้ายและความทุกข์ที่ยังคงเหลืออยู่ มันเป็นเพราะแค่เรายังไม่มีความรู้ในการแก้ปัญหานั้น

แต่ในจักรวาลนี้ มีแต่มนุษย์ที่สร้างความรู้ได้แบบไม่จำกัด (ต่อไปอาจจะมี AI) หรือที่เรียกกันว่า universal explainer
สิ่งมีชีวิตอื่นๆ อาจจะสร้างความรู้บางอย่าง ในกรอบที่ถูกกำหนดมาด้วยพันธุกรรม
แต่ความรู้ของมนุษย์ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยอะไรเลย เมื่อเราพบปัญหา เราเลือกที่จะแก้มันได้
ปัญหาที่เราแก้(ฟิสิกส์ การเมือง คณิตศาสตร์ ความงาม)มันข้ามพ้นสิ่งที่พันธุกรรมเรากำหนดมาไปหลายระดับ และคงจะเป็นไปต่อเรื่อยๆ
แม้ว่าปัญหาจะไม่มีที่สิ่นสุด เพราะการแก้ปัญหา นำเราไปสู่ปัญหาใหม่เสมอ
แต่ทุกปัญหาใหม่ ก็นำไปสู่ความก้าวหน้า และมีแต่มนุษย์สร้างความก้าวหน้าได้ไม่จำกัด

ความรู้เกี่ยวกับ ความจริงทางกายภาพ มีอยู่จริง
ความรู้เกี่ยวกับ การดูแลสังคมอย่างสันติสุข ก็มีอยู่จริง
ปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ ถูกแก้ได้เสมอถ้ายังอยู่ใต้กฎฟิสิกส์ และมนุษย์ที่จะเข้าถึงความรู้นั้นได้
เช่น แม้เราจะเคยมีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ เคยมีทาส แต่มนุษย์มองเห็นมันเป็นปัญหา ปัญหาพวกนี้ถูกแก้ได้

ผมคิดว่า John Gray เข้าใจผิดว่า มีปัญหาที่ไม่มีทางแก้ได้ หรืออาจจะมีทางแก้ได้แต่ ความรู้นั้นมนุษย์ไม่มีทางเข้าถึงได้
ผมไม่แน่ใจว่า เค้าได้อธิบายหลักฟิสิกส์/ชีววิทยาที่อธิบายว่า ทำไมถึงมีข้อจำกัดนี้ในธรรมชาติ
ถ้าเค้าไม่ได้อธิบาย มันดูเป็นความคิดที่เข้าข่ายการเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติมากกว่า

2. ผิดจริยธรรม เพราะว่า มันเป็นปรัชญาที่เป็นศัตรูกับอารธรรม

จากที่ผมพูดไป ทุกๆ ความเลวร้ายที่มีอยู่ มันเป็นเพราะแค่ว่าเรายังไม่มีความรู้ในการแก้ปัญหานั้น
ฉะนั้น ปรัชญาที่ดีในเชิงจริยธรรม ย่อมต้องสนับสนุนให้คน เสาะหาปัญหา error ต่างๆ ที่เรามีอยู่ในทุกๆ ด้าน ทุกๆ ระดับ และสนับสนุนแก้ปัญหานั้น และวิจารณ์วิธีการแก้(หาปัญหาใน solution)
เพื่อการพัฒนาและกำจัดความเลวร้ายความทุกข์ออกไปเรื่อยๆ

ผมเข้าใจว่าปรัชญาของ John Gray ไม่สนับสนุน process นี้ (“พวกมึงหยุดคิดจะเปลี่ยนโลกเถอะ”)
ในทางกลับกัน ความคิดที่หยุดยื้อ เสาะหาปัญหาใหม่ๆ/การแก้ปัญหา/การวิจารณ์ มีแต่นำไปสู่ความไม่ยั่งยืนและการล่มสลาย
เพราะในอนาคต เราจะต้องพบปัญหายากๆ ที่เข้ามา ถ้าเราไม่มีความรู้สำหรับการแก้ปัญหานั้นก็ยิ่งเพิ่มความทุกข์
(ถ้าจะมองแบบสุดขั้วระดับโลก เรารู้ว่าในอนาคตอันไกล โลกจะต้องแตกดับอยู่แล้ว เช่น ดวงอาทิตย์กลืนกินโลก และความเป็นไปได้อื่นๆ
ถ้าเราแคร์สิ่งมีชีวิตทั้งโลกจริงๆ เราต้องรีบหาวิธีการอพยพสิ่งมีชีวิตในโลกไปดาวอื่น และมีแต่มนุษย์ที่จะทำสิ่งนี้ได้)

Leave a comment